บ้านในนคร เป็นทีพักบูติกโฮเต็ลขนาดเล็ก ที่เจ้าของบ้านปรับปรุงบ้านเก่าอายุร่วมร้อยปี ตบแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ ในลักษณะผสมผสานเก่าใหม่ ทำให้สถานที่แห่งนี้มีลักษณะ Handmade และอบอุ่น แตกต่างจากที่พักทั่วไป หลายส่วนของบ้าน เจ้าของบ้านลงมือทำเอง โดยเฉพาะงานโมเสก ที่มีสีสัน เพิ่มความสดใสและความน่าสนใจให้กับโรงแรมได้เป็นอย่างดี เหมาะแก่การการเซลฟี่ เป็นอย่างยิ่ง เรามีที่พักเพียง 6 ห้อง แต่ละห้องตบแต่งอย่างมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน

Translate

วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560

วัดมัชฌิมาวาส หรือวัดกลาง Matchimawat Temple or Wat Klang


วัดมัชฌิมาวาส หรือวัดกลาง

เป็นวัดที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดยายศรีจันทร์ ต่อมามีผู้สร้างวัดขึ้นขนาบสองข้างคือวัดโพธิ์ ทางฝั่งขวา และวัดเลียบทางฝั่งซ้าย ทำใหผู้คนพากันเรียกชื่อใหม่ว่าวัดกลาง วัดนี้ได้รับการบูรณะใหม่โดยเจ้าเมืองสงขลา ให้เป็นวัดหลักประจำเมือง หลังจากได้ย้ายเมืองจากฝั่งแหลมสนมายังที่ปัจจุบัน

พ.ศ.2431 พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นวชิรญาณวโรรส เสด็จเมืองสงขลา จึงเปลี่ยนชื่อเป็นภาบาลีว่าวัดมัชฌิมาวาส ซึ่งแปลว่าวัดกลาง สิ่งที่น่าสนใจ มีพระอุโบสถที่ถอดแบบมาจากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร ภายในมีภาพจิตรกรรมผาผนังเรื่องทศชาติชาดก พุทธประวัติ และเทพชุมนุม เขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ปัจจุบันได้รับการบูรณะอยู่ในสภาพที่ดีมาก วัดนี้อยู่บนถนนไทรบุรีอยู่ห่างจากบ้านในนครเพียงแค่ 100 เมตรเท่านั้นเอง

บรรได และซุ้มประตูกุฏิ

ลานภายในระบียงแก้วของพระอุโบสถ

สิ่งที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณืของวัดในสงขลา โดยเฉพาะที่วัดนี้ คือระเบียงแก้วแบบโปร่ง เป็นการนำกระเบื้องหลังคามาเรียงเป็นรูปดอกไม้ ดูสวยแปลกตาดี




เสมานั่งแท่น ดูจากลักษณะการแกะสลักและเนื้อหิน น่าจะเป็นการสั่งทำมาจากเมืองจีน

ประตูระเบียงแก้ว

ภายในพระอุโบสถ

ภาพจิตรกรรมผาผนังภายในพระอุโบสถ











 
เพิ่มคำอธิบายภาพ










แผนที่วัดมัชฌิมาวาส




















มัสยิดบ้านบน (มัสยิดอุสาสนอิสลาม) Banbon Mosque (Assasul Islam Mosque)


มัสยิดบ้านบน หรือมัสยิดอุสาสนอิสลาม มัสยิดเก่าแก่ของเมืองสงขลา สร้างขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับการสร้างเมือง มีปี พ.ศ.ระบุไว้ที่ประตูรั้วทางเข้ามัสยิดว่า พ.ศ. 2390 นั่นหมายความว่ามัสยิดนี้ สร้างขึ้นเมื่อ 5 ปีหลังการพระราชทานเสาหลักเมืองของ ร.3 (พ.ศ. 2385)  มีหลักฐาน ร.5 พระราชทานพระราชทรัพย์เพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์และประดับตกแต่ง เมื่อครั้งเสด็จประพาสเกาะชวา และได้แวะที่เมืองสงขลา ร.6 พระราชทานโคมไพสีเขียวแก่มัสยิด เช่นเดียวกับที่พระราชทานแก่มัสยิดสำคัญๆในกรุงเทพมหานคร ซึ่งโคมไฟนี้เป็นเครื่องสังเค็ดในงานพระเมรูของ ร.5 มัสยิดแห่งนี้ อดีตเคยเป็นมัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของพี่น้องชาวมุสลิมสงขลา ก่อนที่มัสยิดกลางแห่งใหม่จะถูกสร้างขึ้น ณ.ริมถนนลพบุรีราเมศวร์ ตำบลคลองแห ปัจจุบันเป็นมัสยิดของชุมชน แต่มีผู้คนต่างถิ่นแวะมาละหมาดและมาเยี่ยมเยียนทุกวัน

มัสยิดแห่งนี้ มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมแตกต่างจากมัสยิดทั่วไป คือเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนทรงไทยคล้ายอุโบสถวัด หออาซานเดิมมีลักษณะคล้ายหอระฆัง ก่อนที่จะมีการต่อเติมและเพิ่มโดมในภายหลัง เชื่อกันว่า ช่างที่สร้างอาคารมัสยิดและหออาซาน เป็นช่างชุดเดียวกับที่สร้างวิหารวัดมัชฌิมาวาส พระอารามหลวง ที่อยู่ไม่ไกลจากกัน แม้จะเป็นมัสยิดทรงไทยแต่ก็ไม่มีสิ่งใดที่ขัดต่อหลักการของอิสลาม ประตูทางเข้าเดิมก่อนการบูรณะครั้งใหญ่ เป็นประตูโค้งยอดแหลม เป็นศิลปะอิสลาม ที่ผสมผสานอยู่ในอาคารแบบไทย แต่ถูกแก้ไขเป็นประตูโค้งธรรมดาเมื่อมีการบูรณะครั้งใหญ่ที่ผ่านมา เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ปัจจุบันเหลือแคประตูเดียวที่มีลักษณะดังกล่าว คือประตูทางเข้าหออะซาน ที่อยู้ด้านทิศตะวันตกของอาคารมัสยิด

มัสยิดบ้านบนตั้งอยู่บนถนนพัทลุง ในย่านเมืองเก่าสงขลา สามารถเดินได้จากบ้านในนคร อยู่ห่างกันเพียงแค่ 500 เมตร ที่ด้านหน้าของมัสยิดมีร้านอาหารหลายร้านที่ฮาลาล และเป็นพื้นที่ที่มีความคึกคักแห่งหนึ่งของสงขลาในยามค่ำคืน














แผนที่มัสยิดบ้านบน

วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ศิลาจารึก 3 ภาษา Stone Inscriptions of Three Languages


ศิลาจารึก 3 ภาษา (จารึกสำโรง)
ศิลาจารึก 3 ภาษาตั้งอยู่ในศาลาริมถนนไทรบุรี ในบริเวณรั้วของโรงพยาบาลจิตเวชสงขลานครินทร์ เป็นศิลาจารึก 3 หลัก หลักละหนึ่งภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาจีน และภาษามลายู ที่มีเนื้อความเดียวกันบ่งบอกถึงความร่วมมือของคน 3 กลุ่มที่สร้างบ้านแปงเมืองมาด้วยกันคือชาวไทยพุทธ ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวไทยมลายูมุสลิม จารึกนี้กล่าวถึงความร่วมมือในการสร้างสะพานข้ามคลองสำโรง ศาลาริมทางและบ่อน้ำเพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ ให้กับผู้ที่สัญจรบนถนนไทรบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเข้าออกเมืองสงขลาทางบกตั้งแต่อดีตกาล ท่านสามารถเข้าชมได้ทุกวันในเวลาราชการ อยู่ห่างจากบ้านในนคร 6 กิโลเมตร




แผนที่โรงพยาบาลจิตเวชสงขลา
เมื่อไปถึงทางเข้าโรงพยาบาล ท่านสามารถสอบถามตำแหน่งที่ตั้งของศิลาจารึก 3 ภาษา กับยามที่ประจำตรงทางเข้าโรงพยาบาลได้