บ้านในนคร เป็นทีพักบูติกโฮเต็ลขนาดเล็ก ที่เจ้าของบ้านปรับปรุงบ้านเก่าอายุร่วมร้อยปี ตบแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ ในลักษณะผสมผสานเก่าใหม่ ทำให้สถานที่แห่งนี้มีลักษณะ Handmade และอบอุ่น แตกต่างจากที่พักทั่วไป หลายส่วนของบ้าน เจ้าของบ้านลงมือทำเอง โดยเฉพาะงานโมเสก ที่มีสีสัน เพิ่มความสดใสและความน่าสนใจให้กับโรงแรมได้เป็นอย่างดี เหมาะแก่การการเซลฟี่ เป็นอย่างยิ่ง เรามีที่พักเพียง 6 ห้อง แต่ละห้องตบแต่งอย่างมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน

Translate

วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ห้องสีม่วง purple room




                                    
                                                         
                                                            ห้องสีม่วง

                                             อยู่ชั้นล่าง ประตูเข้าห้องกว้างเป็นพิเศษ
                                        เหมาะสำหรับผู้ที่สะดวกขึ้นบันได ผู้ที่ใช้รถเข็น





ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของบ้านในนคร the architectural style of baan nai nakhon


 ลักษณะทางสถาปัตยกรรม

ตึกส่วนหน้าซึ่งเป็นบ้านเดิมของพระนิเทศโลหสถาน  เป็นตึก 2 ห้อง 3 ชั้นหลังแรกๆของสงขลาที่ใช้วิธีการก่อสร้างแบบก่ออิฐถือปูน ใช้อิฐหน้าวัวสีเหลี่ยมผืนผ้าที่ผลิตจากเตาเผาโบราณในพื้นที่ มีการวางตงไม้และพื้นด้วยไม้เนื้อแข็งที่ยังคงสามารถใช้งานได้จนทุกวันนี้ ส่วนหน้าของตึกได้มีการปรับเปลี่ยนให้ดูทันสมัยขึ้นในภายหลัง

โดยเจ้าของรูปแบบที่นิยมในยุคสงครามโลกครั้งที่2 ส่วนผนังด้านข้างยังคงรูปแบบเดิม ยกเว้นช่องหน้าต่างที่ต้องปรับเปลี่ยนให้สามารถใช้งานได้จริงในสภาวะปัจจุบัน มีการเสริมคานคอนกรีตเสริมเหล็กที่ชั้นล่างเพื่อเปิดโถงห้องนั่งเล่นให้กว้างขึ้น พื้นชั้นล่างเป็นพื้นหินขัด น่าจะทำขึ้นใหม่ตามสมัยนิยมเมื่อประมาณ 40-50 ปีที่แล้ว
ส่วนตึกหลังเป็นตึกที่นายคล้าย ละอองมณีเป็นผู้สร้างขึ้นมา เป็นตึกห้องแถวห้องเดียว 2 ชั้นมีดาดฟ้า หันหน้าไปทางถนนปัตตานี ด้านข้างสร้างติดกับด้านท้ายของตึกหน้า มีโครงสร้างแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ผนังบ้านมีความบางมากขึ้น พื้นชั้นล่างเป็นพื้นหินขัด ส่วนชั้นบน มีการวางตงไม้และวางพื้นไม้ทับ ยังคงใช้งานได้ดีจนถึงปัจจบัน ส่วนท้ายของบ้านหลังนี้ใช้เป็นห้องครัวมีประตูเชื่อมไปยังสวนได้

ปัจจุบันทั้ง 2 บ้านได้มีการเจาะประตูเชื่อมเพิ่มเติม มีการแบ่งห้องใหม่ พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง ซึ่งเป็นสิ่งค่อนข้างยากที่จะทำขึ้นมาใหม่ในบ้านเก่าที่มีพื้นเป็นไม้ พื้นชั้นล่างบางส่วนได้มีการปูทับด้วยหินหน้าวัวโบราณที่รวบรวมมาจากหลายที่ และได้มีการเติมสีสันตามจุดต่างๆด้วยศิลปะกระเบื้องโมเสกที่เจ้าลงมือทำด้วยตัวเอง เพื่อสร้างความสดใสและน่าสนใจให้กับสถานที่

















ประวัติบ้านในนคร บูติกโฮเต็ล the history of baan nai nakhon boutique hotel



พระนิเทศโลหสถาน เจ้าของบ้านท่านแรก

บ้านในนคร เคยเป็นที่พำนักของพระนิเทศโลหสถาน ชาวศรีลังกา ที่รัฐบาลสยาม ว่าจ้างมาทำงานด้านแผนที่และสำรวจแร่ โดยที่ท่านเข้ามาทำงานที่จังหวัดภูเก็ตก่อนตั้งแต่ช่วงปลายสมัยรัชการที่ 5 ต่อมาในช่วงต้นสมัยรัลกาลที่ 6 ท่านถูกส่งมาทำงานที่สงขลา และได้พำนักที่ตึก 3 ชั้น ที่หัวมุมถนนนางงามตัดกับถนนปัตตานี ซึ่งเป็นอาคารส่วนหน้าของโรงแรมบ้านในนครปัจจุบัน ท่านมีภรรยาเป็นชาวสงขลา เป็นต้นตระกูล "วุฒิภูมิ" มีผู้สืบเชื้อสายท่านมากมายที่ใช้นามสกุลนี้ในปัจจุบัน


นายคล้าย ละอองมณี เจ้าของบ้านท่านที่ 2


ต่อมาท่านได้ขายบ้านนี้ให้แก่นายคล้าย ละอองมณี อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา 8 สมัย นายคล้ายได้ซื้อที่ดินเพิ่มด้านหลัง และสร้างห้องแถวติดกับตึกเดิม ตึกใหม่นี้หันหน้าไปทางถนนปัตตานีโดยเจาะประตูเชื่อมกันระหว่าง 2 ตึก ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ท่านได้ใช้บ้านหลังนี้เป็นที่ต้อนรับแขกของท่านเป็นประจำ ส่วนมากเป็นสมาชิกในพรรคประชาธิปัตย์ มีอดีตนายกรัฐมนตรี 3 ท่านที่เคยมาเยี่ยมท่านที่บ้านหลังนี้คือ ม.ร.ว.เสนีย์ปราโมชย์ ม.ร.ว.คึกฤทธ์ ปราโมชย์และนายควง อภัยวงษ์ ในภายหลังท่านก็ได้ตัดสินใจขายบ้านหลังนี้เพื่อนำเงินช่วยพรรคการเมืองของท่าน และได้ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหญ่กกว่านี้ที่ต้นถนนนครนอก


ตึกด้านหลังที่สร้างติดกัน หันหน้าอกทางถนนปัตตานี และเปิดช่องประตูเชื่อมกันภายใน


เจ้าของท่านที่ 3 คือนายพงษ์ศักดิ์ โชคสกุลนิมิตร เป็นชาวนครปฐม เดินทางมาทางเรือด้วยกระเป๋าใบเดียว และมาขึ้นท่าที่สงขลา เพื่อหาโอกาสทางการค้าใหม่ๆ ในที่สุดท่านได้เป็นเจ้าของกิจการประมง ท่านได้ภรรยาเป็นชาวระโนด และใช้บ้านหลังนี้เลี้ยงลูกจนเติบใหญ่ ท่านได้ซื้อทีดินว่างด้านข้างเพิ่มเติม ใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์เพื่อปลูกต้นไม้ ตากผ้าและเป็นที่นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจสำหรับครอบครัว เมื่อลูกๆของท่านแยกย้ายไปมีครอบครัวของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานคร และภรรยาของท่านเสียชีวิตไป ท่านก็ยังคงพำนักอยู่ที่บ้านหลังนี้อีกระยะหนึ่งเพราะความรักและผูกพันธ์ที่ท่านมีต่อบ้านและชุมชนแห่งนี้ แต่ด้วยความห่วงใยของลูกๆที่มีต่อบิดาซึ่งอายุมากแล้ว จึงร่วมกันตัดสินใจนำท่านไปอยู่พร้อมหน้ากันที่กรุงเทพมหานครและขายบ้านหลังนี้

นายพงษ์ศักดิ์ โชคสกุลนิมิตร เจ้าของบ้านท่านที่ 3 เมื่อครั้งที่ท่านกลับมาเยี่ยมบ้านในนคร

บ้านหลังนี้จึงถูกเปลี่ยนมืออีกครั้งหนึ่ง ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของบ้านที่โดดเด่น อยู่กลางถนนนางงาม ในเขตเมืองเก่าสงขลา จึงเหมาะเป็นอย่างมากที่จะเป็นโรงแรมเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองสงขลา โดยเฉพาะเมืองเก่าแห่งนี้