บ้านในนคร เป็นทีพักบูติกโฮเต็ลขนาดเล็ก ที่เจ้าของบ้านปรับปรุงบ้านเก่าอายุร่วมร้อยปี ตบแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ ในลักษณะผสมผสานเก่าใหม่ ทำให้สถานที่แห่งนี้มีลักษณะ Handmade และอบอุ่น แตกต่างจากที่พักทั่วไป หลายส่วนของบ้าน เจ้าของบ้านลงมือทำเอง โดยเฉพาะงานโมเสก ที่มีสีสัน เพิ่มความสดใสและความน่าสนใจให้กับโรงแรมได้เป็นอย่างดี เหมาะแก่การการเซลฟี่ เป็นอย่างยิ่ง เรามีที่พักเพียง 6 ห้อง แต่ละห้องตบแต่งอย่างมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน

Translate

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2562


ชาวบ้านบน เป็นใคร มาจากไหน


ชาวบ้านบน เป็นใคร มาจากไหน

จากแผนที่ฝรั่งเศสสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ปรากฏหลักฐานการตั้งถิ่นฐานมาแล้วของพื้นที่ ที่เป็นเมืองสงขลาปัจจุบัน ซึ่งมี 2 ชุมชนโบราณอยู่ใกล้กันใต้คือ ชุมชนบ่อยาง อยู่บริเวณรอบวัดยางทอง และชุมชนบ่อพลับตรงบริเวณบ้านบนและมัสยิดอุสาสนอิสลามในปัจจุบัน



แผนที่ฝรั่งเศส แสดงที่ตั้งเมืองสงขลาฝั่งหัวเขาแดง

พงศาวดารเมืองสงขลา เรียบเรียงโดยพระยาวิเชียรคิรี (ชม) เมื่อครั้งยังเป็นพระยาสุนทรานุรักษ์ ได้เขียนไว้ว่า กรมพระราชวังบวรสถานมงคล พระอนุชาของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เสด็จมาราชการที่เมืองนคร และเลยมาเมืองสงขลา ได้เสด็จประทับว่าราชการที่พลับพลา ณ บ้านบ่อพลับ ซึ่งสร้างโดยพระสงขลาโยมนอกราชการ ซึ่งเป็นมุสลิม กับหลวงสุวรรณคิรีสมบัติ (บุญหุ้ย) ทรงพระกรุณาให้มีตราเรียกเจ้าเมืองมลายูเข้าเฝ้าพร้อมกัน ณ ที่แห่งนี้ ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้เมืองสงขลา เป็นผู้ดูแลควบคุมหัวเมืองมลายู รวมถึงให้เป็นผู้รวบรวมส่วย ดอกไม้เงิน ดอกไม้ทอง ไปยังบางกอก ประกอบกับบริเวณใกล้เคียง คือบ้านบ่อยาง เคยเป็นที่ตั้งของค่ายทหารที่ดูแลความปลอดภัยของเมืองด้วย จากเหตุผลที่ว่านี้ เมืองสงขลาน่าจะต้องมีสถานที่รับรองเจ้าเมือง หรือตัวแทนเจ้าเมืองและผู้ติดตามจำนวนไม่น้อยในการดูแลความปลอดภัย ให้กับคณะที่มาส่งส่วยในแต่ละปี และจำเป็นจะต้องมีสถานที่ประกอบศาสนกิจให้กับท่านเหล่านั้นอย่างแน่นอน จากเหตุผลดังกล่าว เป็นไปได้ว่า มัสยิดบ้านบน อาจจะมีการสร้างมาก่อนแล้วเพื่อการนี้ ปกติแล้วอาคารมัสยิดโบราณที่มีอายุมากกว่า 200 ปีจะสร้างด้วยไม้

จากบันทึกการสัมภาษณ์ นายหมัด คะทวี อายุ 88 ปี มุสลิมที่มีอายุมากที่สุดในเวลานั้น ซึ่งสัมภาษณ์ โดยนายอดุลย์ วัชรดิลก ( เสีย
ชิวิตเมื่อ พ.ศ. 2521) ระบุว่า มัสยิดหลังปัจจุบัน สร้างขึ้นราว พ.ศ.2390 ( ประมาณ 5 ปี หลังการพระราชทานไม้ชัยพฤกษ์ เพื่อปักหลักเมือง ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ) โดยนายช่างชุดเดียวกับที่มาสร้างโบสถ์วัดกลาง หรือวัดมัชฌิมาวาส ซึ่งเป็นไปได้ว่าเมื่อชุมชนมีความหนาแน่นขึ้น หลังจากการย้ายเมืองมา ณ ที่ปัจจุบัน อาจมีชาวมุสลิมจากบ้านหัวเขาย้ายถิ่นฐานมาฝั่งนี้ด้วย และจากการแต่งงานระหว่างมุสลิมด้วยกัน
ป้ายหน้าสุสานของคุณอดุลย์ วัชรดิลก

ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของมัสยิดบ้านบน ตั้งอยู่ในเขตกำแพงเมือง หากไม่มีชุมชนมุสลิมมาก่อน ย่อมเป็นการยากที่จะสร้างมัสยิดใหม่ในเขตกำแพงเมือง ซึ่งสร้างมาตามคติพุทธและพราหมณ์

หากเดินทางมาทางมาทางบก ชุมชนบ้านบนจะมีตำแหน่งที่ตั้งอยู่หน้าเมือง ใกล้ทางเข้าประตูยุทธชำนะ ด้านทิศใต้ของกำแพงเมือง ซึ่งมีถนนไทรบุรีเชื่อมต่อไปยังเมืองไทร และมีประตูอัคนีวุธ ซึ่งเป็นทางเข้าจากด้านทะเลสาบ สำหรับการเดินทางมาทางเรือ บริเวณใกล้มัสยิดยังมีตลาดโบราณ คือตลาดบ่อพลับ ที่มีชื่อเสียงในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาที่มีเนื้อดีและมีความบางเป็นพิเศษ เจ้านายทุกพระองค์จะเสด็จมาเยือนตลาดแห่งนี้เสมอเมื่อเสด็จมาเยือนสงขลา

 
  


การแต่งกายของสตรีบ้านบนในอดีต
 


การแต่งกายของสตรีบ้านบนในอดีต



หลักฐานจากภาพถ่ายโบราณ ชาวบ้านบนมีวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ที่คล้ายกับชาวพุทธดั้งเดิมมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา เครื่องแต่งกาย ที่อยู่อาศัย และอาหารการกิน เป็นไปได้ว่า ชาวบ้านบน ไม่ใช่ใครจากที่ไหน เป็นคนไทยที่อยู่ที่นี่มาแต่แรก เพียงแต่รับการนับถือศาสนาใหม่คือศาสนาอิสลาม เท่านั้นเอง


การแต่งกายของสตรีบ้านบนในอดีต



อาคารมัสยิดในอดีต




หลังคามัสยิดมุงด้วยกระเบื่องสงขลา เช่นเดียวกับบ้านที่อยู่โดยรอบ



หออาซานในอดีต ไม่มีโดม
  

ชุมชนบ้านบนปัจจุบัน ตั้งอยู่บริเวณถนนพัทลุงและถนนนราธิวาส ในเขตกำแพงเมืองเก่าด้านใต้ (ปัจจุบันกำแพงเมืองได้ถูกรื้อออกหมดแล้ว) บางส่วนของชุมชนอยู่นอกกำแพงเมืองในส่วนที่ปัจจุบันนี้เรียกว่า “สะพานเหล็ก”และ”ซอยน้ำผึ้ง” ชุมชนบ้านบน มีมัสยิดบ้านบน หรือ มัสยิดอุสาสนอิสลาม (อ่านว่า อุ -สา- สน อิสลาม) เป็นศูนย์รวมความศรัทธา ของพี่น้องที่นับถือศาสนาอิสลาม



 นอกจากชาวมุสลิมแล้ว พื้นที่บ้านบนยังมีชาวไทยพุทธ และชาวไทยเชื้อสายจีนปะปนอยู่ด้ ในระหว่างคนบ้านบนด้วยกัน จะแบ่งพื้นที่บ้านบนย่อยออกไปอีกเป็น 3 ส่วน คือ บ้านบน บ้านกลางและบ้านนอก บ้านบนคือบริเวณตั้งแต่ถนนพัทลุงไปจนถึงถนนนราธิวาส บ้านกลางคือบริเวณถนนนราธิวาสถึงสุดกำแพงเมือง (ปัจจุบันคือถนนกำแพงเพชร) ส่วนบ้านนอก คือบริเวณนอกกำแพงเมืองออกไป คือจากถนนกำแพงเพชร จนถึงบริเวณซอยน้ำผึ้ง สาเหตุที่เรียกว่าบ้านบน สันนิษฐานว่าเป็นเพราะตั้งอยู่ด้านบนของเมือง หากเดินทางโดยเรือสำเภามาทางทะเลเช่นคนสมัยโบราณ ก็จะพบว่า บ้านบนจะอยู่ด้านบนของเมือง แม้หากดูตามทิศ จะอยู่ด้านทิศใต้ก็ตาม ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีพระราชบัญญัติจัดการสุขาภิบาลเมือง ร.ศ. 127 (พ.ศ. 2451) กำหนดเขตสุขาภิบาลให้ครอบคลุมพื้นที่ที่เคยอยู่ในกำแพงเมืองเก่าทั้งหมดและบริเวณโดยรอบอีกบางส่วน กินพื้นที่ 2 ตำบล คือตำบลบ่อยางและตำบลบ่อพลับ พื้นที่บ้านบน วัดมัชฌิมาวาส ศาลเจ้าเสื้อเมือง อยู่ในเขตตำบลบ่อพลับ ส่วนพื้นที่อีกด้าน ตั้งแต่ถนนยะหริ่งเป็นต้นไปอยู่ในเขตตำบลบ่อยาง เชื่อกันว่าที่มาของชื่อ”บ่อพลับ” คือบ่อน้ำที่อยู่หน้ามัสยิดบ้านบน ซึ่งปัจจุบันยังมีให้เห็นและยังมีการใช้งานอยู่ ตำบลบ่อพลับได้ถูกยุบลงในภายหลังและถูกรวมอยู่ในตำบลบ่อยาง

 มีราชทินนามที่เกี่ยวข้องกับชาวบ้านบน คือ ขุนบ่อพลับพิศาล เป็นชื่อของกำนันตำบลบ่อพลับซึ่งเป็นชาวบ้านบน ที่ประตูทางเข้ามัสยิดเดิม เคยปรากฏชื่อเป็นอักษรนูนต่ำเขียนว่า ขุนบ่อพลับ ท่านเป็นผู้หนึ่งที่สร้างคุณูปการด้วยการบริจาคที่ดินบางส่วนให้แก่มัสยิดบ้านบน ขุนบ่อพลับพิศาล เป็นต้นตระกูล”พิศาล”

พิธีฝังศพอิหม่ามเซ็น อุสตาส กรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลาท่านแรก



คณะกรรมการมัสยิดบ้านบน สมัยอิหม่ามเซ็น อุสตาส ถ่ายรูปร่วมกับข้าราชการที่หน้ามัสยิด



คณะกรรมการจัดงานเมาลิด ปี พ.ศ. 2519

ในปัจจุบัน ชาวบ้านบน น่าจะมีทั้งส่วนที่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ดั้งเดิมและส่วนที่ย้ายมาจากบ้านหัวเขา ฝั่งสิงหนคร เมื่อครั้งที่มีการย้ายเมืองใหม่มาตั้งอยู่ ณ สถานที่ปัจจุบัน ชาวบ้านบนมีความโดเด่นในเรื่องการทำอาหารและขนมโบราณ อาหารที่ขึ้นชื่อ มีข้าวมันแกงไก่สงขลา ขนมปำจี ขนมบูตู ข้าวเหนียวบอก ขนมปะดา เป็นต้น ชาวบ้านบน นิยมอาศัยอยู่ในบ้านไม้ มีทั้งที่เป็นเรือนไทย และห้องแถว ต่างกับชาวไทยเชื้อสายจีนที่นิยมสร้างตึก ซึ่งมีความคงทนกว่า บ้านของชาวบ้านบนที่เป็นไม้ได้ผุพังไปตามกาลเวลา ในปัจจุบันจึงมีเหลือไม่มาก อย่างไรก็ตามอาคารศาสนสถาน มัสยิดบ้านบน ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยอิฐและปูนอย่างคงทนถาวร ได้รับการดูแลให้ตั้งตะหง่านโดดเด่นมั่นคงอยู่ริมถนนพัทลุงมาจนถึงปัจจุบัน. 
 
โถงละหมาด ภายในมัสยิด


ขนมถาด

มันสำปะหลังกวน

ห้องแถวชาวบ้านบน

บ้านชาวไทยพุทธที่หน้ามัสยิด

ขนมลูกโดน

ข้าวเหนียวปิ้งบริเวณถนนนราธิวาส

ซุปเอ็นเนื้อหน้ามัสยิด

บรรยากาสวันศุกร์ ที่มีการละหมาดร่วมกัน
ถนนพัทลุงยามคำ่คืน

ชาวบ้านกำลังนำผู้ที่เสียชีวิตไปฝังที่กุโบร์

มัสยิดบ้านบนในปัจจุบัน